Journal
บันทึกของผมคือการรวบรวมประสบการณ์และบทเรียนต่างๆ ที่ได้เรียนรู้มา โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็นคลังความรู้ส่วนตัวสำหรับงานด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมและสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
1. บ้านและสัตว์เลี้ยง: เมื่อพวกเขาคือจักรวาลของเรา
ในฐานะสถาปนิกที่รักสัตว์จนหมดหัวใจ สำหรับผมแล้ว “บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยของมนุษย์อีกต่อไป แต่มันคือพื้นที่แห่งความสุขที่เราต้องออกแบบเพื่อ “ทุกชีวิต” ที่อยู่ร่วมกัน
หัวใจของการออกแบบบ้านสำหรับคนรักสัตว์เลี้ยงคือการมองว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ “สัตว์เลี้ยง” แต่คือ “สมาชิกในครอบครัว” คือศูนย์กลางของจักรวาลในบ้านหลังนี้ ทุกตารางนิ้วจึงต้องตอบสนองความต้องการและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพวกเขาอย่างแท้จริง
ผมเริ่มต้นจากการสังเกตพฤติกรรมตามธรรมชาติของพวกเขา แมวชอบที่สูง ชอบปีนป่าย และต้องการพื้นที่ส่วนตัวสำหรับหลบซ่อน ผมจึงออกแบบชั้นลอย ผนังสำหรับปีน (catwalk) และช่องหรือมุมสงบๆ ที่พวกเขาสามารถเข้าไปพักผ่อนได้อย่างสบายใจโดยไม่มีใครรบกวน
สำหรับสุนัข พวกเขาต้องการพื้นที่วิ่งเล่นและสัมผัสกับธรรมชาติ การออกแบบให้มีพื้นที่สวนที่เชื่อมต่อกับตัวบ้านอย่างลื่นไหล (indoor-outdoor living) เป็นสิ่งสำคัญ ผมเลือกใช้วัสดุปูพื้นที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย และไม่ลื่น เพื่อความปลอดภัยของพวกเขา นอกจากนี้ การมีมุมอาบน้ำและเป่าขนโดยเฉพาะก็ช่วยให้การดูแลความสะอาดเป็นเรื่องง่ายขึ้น
การเลือกใช้วัสดุที่ไม่เป็นพิษ (non-toxic) เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผมให้ความสำคัญสูงสุด ตั้งแต่สีทาผนังไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เพื่อให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อมภายในบ้านจะปลอดภัยสำหรับพวกเขาเสมอ
สำหรับผมแล้ว การออกแบบบ้านที่สัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่แค่การเพิ่มฟังก์ชัน แต่มันคือการสร้างสถาปัตยกรรมที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ เป็นการบอกพวกเขาว่า “ที่นี่คือบ้านของเธอ” อย่างแท้จริง
“สำหรับผมแล้ว บ้านคือพื้นที่แห่งความสุขสำหรับทุกๆ ชีวิต ไม่ใช่แค่ของคนเราเท่านั้นครับ หัวใจสำคัญคือการยกให้น้องๆ สัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลางของครอบครัวอย่างแท้จริง ผมจึงออกแบบโดยเน้นที่ความต้องการตามธรรมชาติของพวกเขาเป็นหลัก ลองนึกภาพทางเดินเก๋ๆ ให้น้องเหมียวได้ปีนป่าย หรือประตูที่เชื่อมต่อกับสวนให้สุนัขวิ่งเล่นได้สะดวก และแน่นอนว่าต้องเลือกใช้วัสดุที่ปลอดภัย ไม่ลื่น และไร้สารพิษเสมอครับ”
2. สถาปัตยกรรมแห่งชีวิตในบ้าน Modern Tropical
ในฐานะสถาปนิกที่ทำงานในประเทศไทย “Modern Tropical” คือรูปแบบที่ตอบโจทย์บริบทของเราได้อย่างงดงาม แต่สำหรับผมที่มีสมาชิกสี่ขาเป็นศูนย์กลางของหัวใจ การออกแบบจึงต้องลึกลงไปกว่าแค่ความสวยงามและการใช้งานของมนุษย์ มันคือการสร้าง “สถาปัตยกรรมแห่งชีวิต” ที่ทุกชีวิตในบ้านต้องอยู่สบายอย่างเท่าเทียมกัน
หัวใจของบ้านสไตล์ Modern Tropical ที่ผมออกแบบ คือการเปิดรับธรรมชาติ การสร้างพื้นที่ที่เส้นแบ่งระหว่างภายในและภายนอกเจือจางลง มีการระบายอากาศที่ดีเยี่ยมและแสงธรรมชาติที่ส่องถึง แต่ทั้งหมดนี้ถูกตีความใหม่ผ่านมุมมองของเพื่อนรักสี่ขา พื้นที่เปิดโล่ง (Open-plan) ไม่ใช่แค่ทำให้บ้านดูกว้าง แต่คือลู่วิ่งในร่มที่ปลอดภัยให้พวกเขาวิ่งเล่นได้เต็มที่ การเชื่อมต่อกับสวนภายนอกที่ร่มรื่นด้วยชายคากว้าง ไม่ใช่แค่พื้นที่พักผ่อนของเรา แต่คือมุมโปรดให้พวกเขานอนเอกเขนกรับลมเย็นๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแดดหรือฝน
การเลือกวัสดุคือสิ่งสำคัญ ผมจะเลือกใช้พื้นกระเบื้องหรือปูนเปลือยที่มีผิวสัมผัสไม่ลื่น เพื่อให้ปลอดภัยต่ออุ้งเท้าเล็กๆ และทำความสะอาดง่าย ผสมผสานกับไม้จริงที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนในจุดที่เหมาะสม และแน่นอนว่าวัสดุทุกชิ้นต้องปลอดสารพิษ
ฟังก์ชันที่ซ่อนอยู่ในการออกแบบก็สำคัญไม่แพ้กัน ช่องหน้าต่างบานใหญ่ที่สูงจากพื้นไม่มาก ไม่ใช่แค่องค์ประกอบทางดีไซน์ แต่คือ “ทีวีของน้องหมาน้องแมว” ให้พวกเขานั่งมองโลกภายนอกได้อย่างเพลิดเพลิน สวนกลางบ้านกลายเป็นสนามเด็กเล่นส่วนตัวที่ปลอดภัย และผนังบางส่วนก็ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ปีนป่ายสำหรับแมวได้อย่างแนบเนียนไปกับเส้นสายที่เรียบง่ายของบ้าน
ท้ายที่สุดแล้ว บ้าน Modern Tropical ในมุมมองของผม ไม่ใช่แค่บ้านที่สวยและอยู่สบายสำหรับคน แต่มันคือระบบนิเวศขนาดเล็กที่สมบูรณ์พร้อม เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่โอบรับทุกชีวิตไว้ด้วยความรักและความเข้าใจอย่างแท้จริง
“สำหรับผมแล้ว การออกแบบบ้านสไตล์ Modern Tropical ในเมืองไทยนี่ หัวใจหลักคือน้องๆ สัตว์เลี้ยงเลยครับ! ผมนำสไตล์การเชื่อมพื้นที่ในบ้านกับนอกบ้านแบบเจ๋งๆ มาปรับใหม่เพื่อสมาชิกสี่ขาของครอบครัวเราโดยเฉพาะ ลองนึกภาพตามนะครับ: พื้นที่โล่งๆ ที่กลายเป็นสนามวิ่งเล่นส่วนตัวของพวกเขา การใช้วัสดุที่ปลอดภัยไร้สารพิษ และหน้าต่างบานเตี้ยสำหรับเป็น ‘ทีวีช่องโปรด’ ให้พวกเขาได้ส่องโลกภายนอก ทั้งหมดนี้ก็เพื่อสร้างบ้านที่สวยงามและน่าอยู่สำหรับทุกคนและทุกชีวิตในบ้านอย่างแท้จริงครับ”
บ้านที่มีหัวใจ (มีขนนุ่มและสี่ขา)
บ่ายวันนี้ได้คุยกับรุ่นน้องที่สนิทคนหนึ่งที่น่ารักมาก น้องเค้าเขาคิดอยากจะสร้างบ้านใหม่แต่ก็คงอีกซักพักเพราะต้องเก็บเงิน และเกือบครึ่งหนึ่งของบทสนทนา เราไม่ได้คุยกันเรื่องฟังก์ชันห้องต่างๆหรือสเปซของบ้านเลย แต่เราคุยกันเรื่อง “น้องบราวนี่” กับ “น้องบีเวอร์” น้องแมวสมาชิกสี่ขาของบ้าน
มันทำให้ผมกลับมานั่งคิดทบทวนอีกครั้ง ว่าการออกแบบ “บ้าน” จริงๆ แล้วมันคืออะไรกันแน่? มันไม่ใช่แค่การสร้างบ้านสวยๆ ที่มีฟังก์ชันครบ แต่คือการสร้างพื้นที่ที่โอบอุ้มทุกชีวิตที่อยู่ในนั้น นี่คือสิ่งที่ผมสเก็ตช์ไว้ในสมุดบันทึกวันนี้หลังกลับจากกลับมาบ้าน
- วัสดุที่เล่าเรื่องราวของการใช้ชีวิต ผมเลิกมองวัสดุแค่ในแง่ของความสวยงามหรือเทรนด์ไปนานแล้ว สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง วัสดุคือต้องทนทานไปกับเรา ผมนึกภาพพื้นเย็นๆ ที่เจ้าบราวนี่ชอบไปนอนแผ่หลังเล่นเสร็จ, นึกถึงโซฟาผ้าทอแน่นๆ ที่น้องบีเวอร์จะข่วนไม่เข้า และผนังที่เช็ดคราบน้ำลายหรือรอยเท้าเปื้อนๆ ออกได้ง่ายดาย…บ้านที่มีชีวิต คือบ้านที่มีร่องรอยของความสุข ไม่ใช่บ้านที่เจ้าของต้องคอยกังวลตลอดเวลา
- สเปซที่ไม่ใช่แค่ของเรา เรามักออกแบบโดยยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง แต่พอมีสัตว์เลี้ยง โลกของเราก็หมุนรอบพวกเขาไปด้วย ผมร่างภาพชั้นวางหนังสือที่กลายเป็นทางเดินลับๆ ของน้องเหมียวได้อย่างลงตัว, มุมสงบข้างหน้าต่างบานใหญ่ที่วางเบาะนุ่มๆ ไว้ให้เป็นที่ประจำของเจ้าบราวนี่ การออกแบบที่ดีคือการทำให้พื้นที่ของ “เขา” กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “เรา” อย่างเนียนๆ ไม่ใช่การแบ่งแยก
- ดีเทลเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความรัก น้องเค้าเล่าว่าต้องคอยเติมน้ำในชามตลอดวัน ฉันเลยปิ๊งไอเดียทำสเตชันน้ำดื่มแบบ Built-in ที่ต่อท่อตรง มีระบบกรองและเติมน้ำเองอัตโนมัติ หรือจุดอาบน้ำเล็กๆ ตรงหลังบ้านพร้อมที่เป่าลมร้อน แค่นึกภาพตามก็อมยิ้มแล้ว มันคือการแก้ปัญหาเล็กๆ ในชีวิตประจำวันด้วยดีไซน์ และนั่นคือสิ่งที่ทำให้บ้านกลายเป็น “บ้าน” จริงๆ
- ความปลอดภัยที่มองไม่เห็น (แต่รู้สึกได้) มันคือสัญชาตญาณของคนออกแบบที่ต้องคิดเผื่อเสมอ… ระเบียงต้องมีรั้วซี่ถี่แค่ไหนกันนะ? สายไฟหลังทีวีต้องเก็บยังไงไม่ให้กลายเป็นของเล่น? สวนหลังบ้านมีต้นไม้ที่เป็นพิษกับน้องหมารึเปล่า? ความปลอดภัยในบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นเรื่องที่เราต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด เพราะพวกเขาไว้ใจให้เราดูแลชีวิตทั้งชีวิตของเขา
- ประตูสู่โลกกว้าง (อย่างปลอดภัย) ฉันเชื่อว่าสัตว์เลี้ยงก็ต้องการอิสระ การได้เดินออกไปเหยียบหญ้า สูดกลิ่นดิน คือความสุขเล็กๆ ของพวกเขา การออกแบบที่เชื่อมพื้นที่ในบ้านกับสวนนอกบ้านที่ปิดล้อมปลอดภัยจึงสำคัญมาก มันเหมือนเรามอบของขวัญให้เขา เป็นโลกส่วนตัวที่เขาออกไปสำรวจได้เองโดยที่เราไม่ต้องเป็นห่วง
“การออกแบบบ้านให้สัตว์เลี้ยงแฮปปี้ คือการเลือกวัสดุที่ทนทาน จัดโซนส่วนตัวให้เขา เพิ่มฟังก์ชันที่คิดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ คำนึงถึงความปลอดภัย และเชื่อมสวนนอกบ้านให้พวกเขาวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ งานของผมไม่ใช่แค่การวาดแปลน แต่คือการสร้างฉากความทรงจำดีๆ ของทุกชีวิตในครอบครัว…ไม่ว่าจะสองขาหรือสี่ขาก็ตามครับ”
